"RPC" เงินสดล้นมือเจียด 220 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนจากตลาด 10% หวังดันราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานแท้จริง-ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนดีขึ้น
นางศิรพร กฤษณกาญจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ (RPC) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติโครงการซื้อคืนหุ้นวงเงินไม่เกิน 220 ล้านบาท หรือเกิน 10% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดหรือจะซื้อคืนประมาณ 52.98 ล้านหุ้น จากหุ้นชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งอยู่ที่ 529.87 ล้านบาท หรือ 529.87 ล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ที่ 1 บาท
ทั้งนี้ หุ้นของบริษัท ณ วันปิดสมุดทะเบียน ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2550 มีจำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย (Free float) เท่ากับ 204.06 ล้านหุ้น หรือ 38.51%
"เหตุผลที่บริษัทต้องทำการซื้อหุ้นคืนจากตลาดหลักทรัพย์ ก็เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดย ณ สิ้นไตรมาส3 ปี 2550 บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนรวมทั้งสิ้น 2.13 พันล้านบาท" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกล่าว
นอกจากนี้ จะทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราที่สูงขึ้นด้วย เพราะหุ้นที่ซื้อคืนไปจะไม่ได้รับเงินปันผล โดยในงวดครึ่งปี 2550 บริษัทจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท หรือให้ผลอัตราตอบแทน 8.70%
อีกทั้งการซื้อหุ้นคืนจะทำให้ราคาหุ้นของบริษัทสะท้อนค่าที่แท้จริงของธุรกิจด้วย โดยจะเริ่มซื้อหุ้นคืนจากตลาดตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2551
สำหรับฐานะทางการเงินของบริษัท ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2550 มีกำไรสะสม 477.62 ล้านบาท และไม่มีหนี้สินที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 6 เดือนนี้เลย และแม้ว่าบริษัทจะนำเงินมาซื้อหุ้นคืน 220 ล้านบาท ก็ไม่กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ เพราะมีสภาพคล่องล้น และเงินที่จะนำมาซื้อคืนนั้นจะเป็นเงินจากเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
ทั้งนี้ ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลอยู่ที่ 4.12 บาทต่อหุ้น
สำหรับราคาหุ้น RPC เมื่อวันที่ 17 ม.ค. พุ่งรับข่าวบริษัทจะซื้อหุ้นคืนจากตลาด และเป็นไปตามภาวะตลาดโดยรวม ทำให้ราคาขึ้นไปปิดที่ 4.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาทหรือ 4.02%
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551