ชี้เเจงผลการดำเนินงานปี 2550

BackFeb 26, 2008

ที่ RPC/HO-SET/ELICID - 0008/08

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551

เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานปี 2550 และผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายบัญชี

เรียน กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจากผลประกอบการปี 2550 เพิ่มขึ้น 217.31 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 119 จากกำไรสุทธิ 183.38 ล้านบาทในปี 2549 เป็นกำไรสุทธิ 400.69 ล้านบาทใน ปี 2550 บริษัทฯ จึงขอชี้แจงสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของ กำไรสุทธิดังนี้

1. การเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้น
ในปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 380 ล้านบาท หรือร้อยละ 57 เมื่อเทียบกับ งวดเดียวกันของปี 2549 เป็นผลมาจาก

- ปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้น
บริษัทฯ มีปริมาณการจำหน่ายรวมในปี 2550 ทั้งสิ้น 942 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 55 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปริมาณการจำหน่าย 887 ล้านลิตร เนื่องจากมีปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นจากการได้รับวัตถุดิบมากขึ้น

- ต้นทุนการผลิตต่ำลงเนื่องจากคุณภาพของวัตถุดิบเป็นปกติ
ในปี 2549 ผู้ขายวัตถุดิบได้ส่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพผิดไปจากที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อ ขายวัตถุดิบ และผิดไปจากที่เคยส่งมอบให้บริษัทฯ ตลอดระยะเวลาของสัญญาที่ผ่าน มาอย่างกระทันหัน มีผลทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนในการปรับคุณภาพสินค้าสูงขึ้นกว่า ต้นทุนการผลิตปกติ ตลอดจนมีค่าเสียหายด้านอื่นๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ 136.45 ล้าน บาท ซึ่งผู้ขายวัตถุดิบได้ตกลงจะชดเชยค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ รวม 52.7 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2550 บริษัทฯ ได้รับวัตถุดิบจากผู้ขายในคุณภาพปกติ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการ ปรับคุณภาพสินค้า จึงมีผลให้ต้นทุนการผลิตในปี 2550 ต่ำกว่าปี 2549

- ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น
ปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมี การปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมัน Gas Oil ในตลาดสิงคโปร์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องถึง 40 USD/Barrel โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 66 USD/Barrel ในเดือน มกราคม 2550 เป็นเฉลี่ย 106 USD/Barrel ในเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งตรงกันข้ามกับ ในช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนมาก โดยราคาน้ำมัน Gas Oil ในตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวขึ้นในช่วงต้นปีและปรับตัวลดลงในช่วงปลายปี

2. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารของบริษัทฯ ในปี 2550 เพิ่มขึ้น 80 ล้านบาท หรือร้อย ละ 18 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงาน และบริหารของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เนื่องจากจำนวนสถานีบริการน้ำมัน ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น และจากการดำเนินงานปีแรกของ บริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด

3. ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
ในปี 2550 บริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่าย 31 ล้านบาท ลดลง 11 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง และการใช้เงินกู้ระยะสั้นลดลง เนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับ งวดเดียวกันของปีก่อน

4. ผลกระทบการเปลี่ยนนโยบายบัญชีต่องบการเงินรวม และงบการเงินของบริษัทฯ
บริษัทฯ เปลี่ยนแปลงนโยบายการบันทึกบัญชีของเงินลงทุนในบริษัทย่อย ในงบการเงิน เฉพาะกิจการ จากวิธีส่วนได้เสีย เป็นวิธีราคาทุน ในงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่ของมาตราฐานบัญชี ฉบับที่ 44 โดย บริษัทฯ ได้ปรับปรุงงบการเงินที่แสดงเปรียบเทียบย้อนหลังด้วย ทั้งนี้ เงินลงทุนใน บริษัทย่อยที่แสดงอยู่ในงบการเงินเฉพาะกิจการ บันทึกโดยใช้ราคาทุนเดิม (Historical Cost) เป็นราคาทุนเริ่มต้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ทำให้กำไรสุทธิในงบ การเงินเฉพาะกิจการ ไม่เท่ากับกำไรสุทธิในงบการเงินรวม โดยงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 งบการเงินรวมมีกำไรสุทธิ 400.69 ล้านบาท แต่งบการเงินเฉพาะกิจการ มีกำไรสุทธิ 402.95 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ขอชี้แจ้งเพิ่มเติม ดังนี้

1. การเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีดังกล่าว ทำให้งบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 และ 2549 แสดงกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวน 2.26 ล้านบาท และลดลงเป็นจำนวน 18.96 ล้านบาท ตามลำดับ (เพิ่มขึ้น 0.004 บาทต่อหุ้น และลดลง 0.04 บาทต่อหุ้นตามลำดับ) เนื่องจาก งบการเงินเฉพาะกิจการ ไม่ได้รวมรายการ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน ซึ่ง บันทึกโดยวิธีส่วนได้เสีย

2. ผลกระทบต่อรายการอื่นในงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับงบการเงิน สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ได้แก่ เงินลงทุนในบริษัทย่อย และกำไรสะสมที่ แสดงไว้ในงบดุล ลดลง 32.8 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลสะสมของการเปลี่ยนแปลง หลักการบัญชีนี้ได้แสดงไว้ใน "ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี เกี่ยวกับเงินลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ" ในงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะกิจการ

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีดังกล่าว ส่งผลต่อการแสดง รายการบัญชี ที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนในบริษัทย่อย ในงบการเงินเฉพาะกิจการเท่านั้น ไม่ได้มีผล กระทบต่อการจัดทำงบการเงินรวม และปัจจัยพื้นฐานการทำธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด

ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีกำไรสุทธิในปี 2550 เพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับ 217.31 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 119

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

 

ขอแสดงความนับถือ

 

( นางศิรพร กฤษณกาญจน์ )
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ

 

นักลงทุนสัมพันธ์ / สำนักกรรมการผู้จัดการ
โทร.0-2515-9036 e-mail ir@rpcthai.com

Attachments

  • 20080226_rpcT2.pdf (Size: 117,428 bytes)